วัดสวยๆ ภาคอีสาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยประกอบด้วย 20 จังหวัดและเป็นภาคที่ใหญ่มาก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ ธรรมชาติ หรือวัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของคนในท้องถิ่น รวมถึงวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แฝงไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาของคน เอาล่ะ… ใครได้บุญหรือได้บวชแล้วบ้าง? ที่ต้องการไปไหว้ขอพรจากวัดในภาคอีสานเราได้รวบรวมวัดที่มีชื่อเสียงและสวยงามไว้ให้ท่านแล้ว คุณสามารถแสดงความเคารพ ทำบุญ และเพิ่มความมั่งคั่งได้ มันนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิตของคุณ พวกเขาอยู่ที่ไหน? มาดูกันดีกว่า
วัดสวยๆ ภาคอีสาน วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา
วัดสวยๆ ภาคอีสาน วัดโบราณในตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด เป็นวัดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพระเทพวิทยาคม หรือ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” พระเกจิชื่อดังที่คนทั่วประเทศนับถือและศรัทธา ภายในวัดมีอาคารสำคัญๆ มากมาย ได้แก่ อุโบสถ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ หอแก้ว หอระฆัง อาคารประชาสัมพันธ์ ศูนย์โอทอป และหอเทพวิทยาคมเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา (สวยงามและสวยงามที่สุด) (อาคารปาริสุทธิปัญญา) เป็นสวนธรรม 5 ชั้น กลางสระน้ำขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายอาคารประติมากรรมช้าง มีภาพนูนต่ำนูนต่ำและโมเสกเซรามิกหลากสีสันมากกว่า 20 ล้านชิ้น ซึ่งประกอบขึ้นอย่างประณีตโดยคนในท้องถิ่นที่ทุ่มเท ภายในวัดได้รับการออกแบบให้เป็นวัดพระไตรปิฎกซึ่งสรุปประวัติพระพุทธเจ้า พระวินัย และคำสอนของพระองค์
วัดป่าอินทรเทพประดิษฐ์ จังหวัดชัยภูมิ
ตั้งอยู่ที่บ้านโนนสวรรค์ ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิตย์ เป็นวัดที่มีอุโบสถสีทองอร่าม มีเจดีย์ทองด้วย และรูปพญานาคทองคำแกะสลักอย่างสวยงามอยู่รอบอุโบสถด้านใน “หลวงพ่อพุทธธรรม” (นำโชคลาภ) และยังมีพญานาคให้บูชาอีกด้วย วัดตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ระหว่างทางยังมองเห็นดอกกระเจียวอีกด้วย เนื่องจากอยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติป่าหินงามเพียง 5 กิโลเมตร วัดแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมทุ่งดอกกระเจียวเพื่อสักการะและขอพรได้
วัดวังคำ จังหวัดกาฬสินธุ์
ตั้งอยู่ในบ้านนาวี. ตำบลสองเพื่อน อำเภอเขาวง วัดมีความสวยงามตระการตา สถาปัตยกรรมนี้จำลองมาจากวัดเชียงทองในหลวงพระบาง ประเทศลาว ซึ่งดูเหมือนอาคารโบสถ์ที่มีหลังคาสามชั้นและมียอดแหลมเก้าชั้นอยู่ตรงกลาง หลังคาโค้งลง รอบโบสถ์มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นวัดไทยแห่งเดียวในจังหวัดกาฬสินธุ์ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านช้าง เช่น พระธาตุสีทองอร่าม ซึ่งได้รับอิทธิพลจากธาตุหลวง เวียงจันทน์ ประเทศลาว และพระธรรมเทศนาที่ประดิษฐานอยู่ “หลวงปู่วังคำ” พระพุทธรูปล้านช้างที่สวยงาม ส่งผลให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่เมืองกาฬสินธุ์มองไม่เห็น นอกจากความสวยงามของศิลปะล้านช้างแล้ว วัดวังคำ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวภูไทอีกด้วย
วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย
ตั้งอยู่ที่ถนนประจักษ์ศิลปาคม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วิจิตรตระการตา และเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปสำคัญคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย ในสมัยล้านช้าง หล่อด้วยทองสีสุก หน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ซึ่งในช่วงวันสงกรานต์ของทุกปี จะมีการจัดงานสมโภชและขบวนแห่ให้ชาวหนองคายได้สรงน้ำหลวงพ่อพระใสเพื่อความเป็นสิริมงคลกันอีกด้วย ถือว่าเป็นประเพณีใหญ่ประจำจังหวัดเลยทีเดียว
วัดเจติยาคีรีวิหาร จังหวัดบึงกาฬ
อีกชื่อหนึ่งคือ วัดภูทอก ตั้งอยู่ที่บ้านคำแคนพัฒนา หมู่ 6 ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขา มีสะพานไม้และบันไดรอบ ๆ ภูเขา วนไปมาทั้งหมด 7 ชั้น (ชั้น 3-6 สามารถเดินเวียนรอบได้ และชั้น 7 ถือเป็นแดนสวรรค์ เดินเวียนไม่ได้) นักท่องเที่ยวที่มาวัดภูทอกแห่งนี้สามารถชื่นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอกแบบ 360 องศา และต้องสำรวมกาย วาจา และใจ หรือสวดมนต์เสมือนเป็นการเดินในเส้นทางแห่งธรรมนั่นเอง ซึ่งในแต่ละชั้นก็มีความโดดเด่นและสวยงามแตกต่างกันไป ดังนี้
– ชั้นที่ 1-2 เป็นบันไดทางขึ้น มีต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
– ชั้นที่ 3 สภาพเป็นป่าเขามืดครึ้ม มีโขดหินลานหิน โดยสุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยกสองทาง ทางซ้ายมือเป็นทางลัดผ่านชั้น 4 ไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลย ซึ่งเป็นทางค่อนข้างชัน
– ชั้นที่ 4 มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่หลายองค์
– ชั้นที่ 5 มีรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ดังประดิษฐานเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก และมีสะพานหินและสะพานให้เดินเชื่อมไปยังพุทธวิหารซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ ชั้นนี้ยังมีศาลากลางและเป็นกุฏิที่อาศัยของพระด้วย
– ชั้นที่ 6 เป็นชั้นที่สวยที่สุดและเป็นชั้นสุดท้ายของบันไดไม้เวียนรอบเขา นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอกได้ดีที่สุดและสวยที่สุด และยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่น่าไปชมคือปากทางเข้าเมืองพญานาค ซึ่งอยู่หลังพระปางนาคปรก มีจุดสังเกตคือจะมีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นรอยถลอกที่เกิดจากท้องพญานาคสัมผัสกับหิน
– ชั้นที่ 7 มีลักษณะเป็นดาดฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม่ทึบธรรมดา เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่
วัดสวยๆ ภาคอีสาน วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองยโสธร ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองยโสธร อำเภอเมืองยโสธร ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญคือ “พระพุทธปฏิมาบุษยรัตน์” หรือพระแก้วหยดน้ำค้าง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะสมัยเชียงแสน เป็นพระบูชาคู่บ้านคู่เมืองของยโสธรและเป็นพระพุทธรูปบูชาประจำเมืองที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทย และพระธาตุอานนท์ พระธาตุเก่าแก่ที่สำคัญองค์หนึ่งในภาคอีสาน และเป็นพระเจดีย์แห่งเดียวในประเทศไทยที่บรรจุอัฐิธาตุของพระอานนท์เอาไว้ภายใน นอกจากนี้ยังมีหอไตรกลางน้ำ สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง มีซุ้มประตูและบานประตูไม้สลักลวดลายเครือเถาลงรักปิดทองอย่างสวยงาม เป็นที่เก็บคัมภีร์ใบลาน พร้อมพระไตรปิฎก และตำราต่าง ๆ ด้วย
บทความนะนำ